สาเหตุที่ปากเป็นแผลหลังฉีดฟิลเลอร์ อาจเกิดได้จากหลายปัจจัยค่ะ เช่น
1. เทคนิคการฉีดของแพทย์: หากแพทย์ไม่ชำนาญ ฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป หรือฉีดโดนเส้นเลือด ก็อาจทำให้เกิดแผล รอยช้ำ หรือเป็นก้อนได้
2. การดูแลตัวเองหลังฉีด: เช่น สัมผัสริมฝีปากบ่อยๆ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ แกะ เกา แผล ทำให้แผลหายช้า หรือติดเชื้อได้
3. การแพ้ยาชา หรือฟิลเลอร์: แม้จะพบได้น้อย แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น บวมแดง คัน เป็นผื่น ได้
4. ชนิดของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์บางชนิดอาจมีความหนืดหรือความแข็งมากเกินไป ทำให้เกิดการกดทับ และเป็นแผลได้
5. บริเวณที่ฉีด: ริมฝีปากเป็นบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น การพูด การรับประทานอาหาร ซึ่งอาจทำให้แผลเกิดการระคายเคือง และหายช้า
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดแผลขึ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ลดอาการอักเสบ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
วิธีดูแลตัวเองหลังปากเป็นแผลจากการฉีดฟิลเลอร์
1. ทำความสะอาดแผล
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ ก่อนสัมผัสบริเวณแผล
- ทำความสะอาดแผลเบาๆ ด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ วันละ 2 ครั้ง
- ซับแผลให้แห้งด้วยผ้าสะอาด หรือสำลี
- งดทาครีม โลชั่น หรือเครื่องสำอาง บริเวณแผล เว้นแต่แพทย์จะสั่ง
2. ประคบเย็น
- ประคบเย็นบริเวณที่เป็นแผล ครั้งละ 15-20 นาที วันละหลายๆ ครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
- การประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวม อักเสบ และรอยช้ำ ได้
3. ดูแลเรื่องอาหารการกิน
- งดอาหารรสจัด อาหารแข็ง และอาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวมาก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ งดสูบบุหรี่
- ดื่มน้ำสะอาดมากๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
4. งดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทบกระเทือน
- งดสัมผัส แกะ เกา แผล หรือริมฝีปากโดยไม่จำเป็น
- งดการเม้มปาก จูบ หรือทำกิจกรรมที่ทำให้ริมฝีปากยืด หรือเกิดการเสียดสี
- งดการแปรงฟันแรงๆ และควรใช้แปรงสีฟันขนอ่อนนุ่ม
- งดการทำทรีตเมนต์ หรือเลเซอร์ บริเวณใบหน้า ในช่วงที่แผลยังไม่หาย
5. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ทานยาตามที่แพทย์สั่ง เช่น ยาแก้อักเสบ ยาแก้แพ้
- ไปพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามอาการ
6. สังเกตอาการ
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น แผลลุกลาม มีหนอง ปวด บวม แดง ร้อน ควรพบแพทย์ทันที
ข้อควรระวัง:
- อย่าบีบ หรือแกะ สะเก็ดแผล เพราะอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้
- ควรทาลิปบาล์ม หรือลิปมาส์ก ที่มีส่วนผสมของสารบำรุง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยสมานแผล (ควรเลือกชนิดที่อ่อนโยน ไม่มีสารระคายเคือง)
- หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
ขอให้แผลหายเร็วๆ และกลับมามีริมฝีปากสวยๆ เร็วๆ นะคะ 😊